พินัยกรรม
พินัยกรรม
พินัยกรรม ในที่นี้ขอกล่าวถึงเฉพาะประเภทที่พบและนิยมกันจัดทำขึ้นมาก นะครับ กล่าวคือ
1.พินัยกรรมฝ่ายเมือง คือ พินัยกรรมที่ อำเภอ หรือ สำนักงานเขต เป็นผู้จัดทำขึ้นเพื่อบริการประชาชนทั่วไป
2.พินัยกรรมแบบเขียนเองทั้งฉบับ คือ ผู้ทำพินัยกรรมเขียนด้วยลายมือตนเอง และลงลายมือชื่อไว้
3.พินัยกรรมแบบจัดทำขึ้น คือ บุคคลอื่นหรือว่าจ้างทนายความให้จัดทำขึ้นแล้ว ผู้ทำพินัยกรรมลงลายมือชื่อ และมีพยานรับรอง ส่วนใหญ่จะให้ทนายความจัดทำขึ้นในรูปแบบนี้ และจะมอบให้ทนายความเป็นผู้เก็บรักษาไว้ ด้วย
การทำพินัยกรรมที่ปลอดภัย เช่น การถ่ายวิดีโอ เนื้อหาในวีดีโอนั้น ต้อง เป็นการบันทึกขั้นตอนการทำพินัยกรรม โดยมีแพทย์ ลงชื่อในพินัยกรรมเพื่อรับรองสติสัมปะชัญญะของผู้ทำพินัยกรรมว่าเป็นปกติ ในขณะที่ผู้ทำพินัยกรรมเขียนพินัยกรรมด้วยลายมือตนเอง ด้านข้าง ๆ ก็มีทนายความปรากฏตัวอยู่เพื่อดูแลให้เนื้อหาในพินัยกรรมสมบูรณ์ตามกฎหมายเมื่อมีการเปิดเผยเทปวีดีโอม้วนนี้ ย่อมทำให้ข้อโต้แย้งที่กำลังจะโต้แย้งว่า ไม่ใช่ลายมือของผู้ทำพินัยกรรม ไม่อาจโต้แย้งได้สำเร็จ หรือแม้จะยกข้อโต้แย้งว่า ผู้ทำพินัยกรรมลงายมือชื่อโดยไม่มีสติก็ไม่ได้ เพราะมีแพทย์รับรองสติสัมปะชัญญะแล้ววิธีการที่ยกมาข้างต้นนี้ ก็ดูจะเป็นวิธีการที่ปลอดภัยที่จะทำให้พินัยกรรมที่ทำขึ้นโดยถูกต้องตามกฎหมาย ปลอดพ้นจากการโต้แย้งความสมบูรณ์ได้ อันจะทำให้มรดกตกทอดไปยังบุคคลที่เจ้ามรดกต้องการได้อย่างสมเจตนา
พินัยกรรม
-สามีหรือภริยาไม่มีอำนาจทำพินัยกรรมยกสินสมรสเกินกว่าส่วนของตนให้แก่บุคคลใดได้
-เจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกสิทธิตามคำพิพากษา และสิทธิในการฟ้อง จึงเป็นสิทธิเกี่ยวกับทรัพย์สิน สามารถทำพินัยกรรมได้
-เจ้ามรดก ทำพินัยกรรมกำหนด การต่างๆ ที่ไม่ใช่ทรัพย์สินได้ เช่น อุทิศศพ ให้กับคณะแพทย์
-ผู้เขียน หรือพยานในพินัยกรรมเป็นผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรมไม่ได้ (พยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ทำพินัยกรรม โดยไม่ได้ลงชื่อเป็นพยานในพินัยกรรมด้วย ใช้บังคับได้ ฎ.40/2539)
-ผู้รับทรัพย์มรดก เซ็นต์ชื่อในฐานะ เป็นผู้รับมรดกได้ (ฎ.52/2503)
-ทำพินัยกรรมยกให้วัด เจ้าอาวาสลงชื่อเป็นพยานได้ เพราะวัดเป็นนิติบุคคลต่างหากจากเจ้าอาวาส (ฎ.1233/2505)
แบบพินัยกรรม มี 5 แบบ
1.พินัยกรรมแบบธรรมดา ต้องทำเป็นหนังสือ ลงวัน เดือน ปี ในขณะทำพินัยกรรม และลงลายมือชื่อต่อหน้าพยานอย่างน้อย 2 คน และพยานต้องลงชื่อรับรองในขณะนั้น
-การขูด ลบ ตก เติม แก้ไขเปลี่ยนแปลงต้องปฎิบัติตามแบบจึงจะสมบูรณ์
2.พินัยกรรมแบบเขียนเอง ต้องเขียนด้วยมือตนเองซึ่งข้อความทั้งหมด วัน เดือน ปี และลายมือชื่อของตน
-การขูดลบ ตก เติม หรือการแก้ไขเปลี่ยนแปลงพินัยกรรมต้องทำด้วยมือตนเอง และลงลายมือชื่อำกกับไว้จึงจะสมบูรณ์ (ไม่ต้องมีพยานก็ได้)
3.พินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมือง ต้องไปแจ้งข้อความกับผู้อำนวยการเขตหรือนายอำเภอ ต่อหน้าพยานอย่างน้อย 2 คน
-การขูดลบ ตก เติม หรือการแก้ไขเปลี่ยนแปลงพินัยกรรมนั้น ผู้ทำพินัยกรรม พยานและกรมการอำเภอต้องลงลายมือชื่อกำกับไว้จึงจะสมบูรณ์
-พยาน ต้องอยู่ต่อหน้า ได้เห็น ได้ยิน ข้อความด้วย จึงจะสมบูรณ์ (ฎ.8045/2544)
-พยาน 2 คน ไม่รวมกรมการอำเภอ (ฎ.359/2521)
-กรมการอำเภอ จดข้อความตาม (2) จะมอบหมายให้ผู้อื่นจดข้อความแทนก็ได้ (ฎ.912/2522)
4.พินัยกรรมแบบเอกสารลับ = ต้องลงลายมือชื่อในพินัยกรรม และต้องผนึกพินัยกรรม และลงลายมือชื่อคาบรอยผนึก และนำไปแสดงต่อกรมการอำเภอ และพยานอย่างน้อย 2 คน การขูดลบ ตก เติม แก้ไขเปลี่ยนแปลง ผู้ทำต้องลงลายมือชื่อกำกับไว้จึงจะสมบูรณ์
5.พินัยกรรมแบบด้วยวาจา
บุคคลผู้เป็นพยานในพินัยกรรมไม่ได้
1.ผู้ซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ
2.บุคคลวิกลจริตหรือบุคคลที่ศาลสั่งให้เป็นผู้เสมือนไร้ความสามารถ
3.บุคคลที่หูหนวก เป็นใบ้ หรือจักษุบอด ทั้งสองข้าง
การเพิกถอนพินัยกรรม